เรื่อง (ไม่) ลับ ที่ผู้หญิงควรรู้ “ประจำเดือนแบบไหน ไม่ปกติ”
ประจำเดือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้หญิง และลักษณะของประจำเดือนสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมได้ การสังเกตและทำความเข้าใจลักษณะของประจำเดือนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทราบถึงความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น และเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
ประจำเดือน ควรมีลักษณะอย่างไร?
1. ประจำเดือนมักมีสีแดง ไม่มีลิ่มเลือดหรือชิ้นเนื้อปน บางครั้งประจำเดือนอาจออกมาพร้อมกับตกขาวจึงดูเป็นก้อนได้แต่ไม่อันตราย
2. ประจำเดือนมักไม่เกิน 7 วันต่อรอบ และมาเพียง 1 รอบต่อเดือน แต่ในบางครั้ง หากมีรอบเดือนในช่วงต้นเดือน อาจมีรอบเดือนอีกครั้งในช่วงวันท้ายๆของเดือนได้
3. โดยเฉลี่ยแล้ว แต่ละรอบประจำเดือนจะห่างกัน 28 วัน แต่สามารถเป็นได้ตั้งแต่ 21 ถึง 35 วัน โดยในแต่ละคนควรมีรอบเดือนที่สม่ำเสมอในทุกๆเดือน อย่างไรก็ตามในช่วงปีแรกๆที่เริ่มมีประจำเดือนหรือในวัยใกล้หมดประจำเดือนอาจไม่สม่ำเสมอได้
4. ปริมาณประจำเดือน ที่ปกตินั้นไม่ควรเกิน 80 ซีซี โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 35 ซีซีต่อรอบ เทียบได้กับผ้าอนามัยประมาณ 3-4 ผืนต่อวัน
เลือดออกผิดปกติแบบไหนที่ควรมาพบแพทย์
การตรวจวินิจฉัย เมื่อประจำเดือนมามากผิดปกติ
การตรวจภายใน
การตรวจภายใน เป็นการตรวจพื้นฐานสำหรับความผิดปกติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธ์ โดยแพทย์จะทำการตรวจดูช่องคลอด มดลูก และรังไข่ เพื่อหารอยแผลและก้อนเนื้อที่น่าสงสัย รวมถึงการกด คลึง ที่ผิวด้านนอกบริเวณใกล้กับรังไข่ เพื่อดว่าผู้ป่วยมีอาการเจ็บหรือไม่
การอัลตราซาวด์
หากพบความผิดปกติจากการตรวจภายใน เช่น มีก้อนเนื้อ หรือมีอาการเจ็บเมื่อถูกกด แพทย์จะทำการตรวจอัลตราซาวด์เพื่อให้สามารถวินิจฉัยได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยการอัลตราซาวด์สามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือ การอัลตราซาวด์ผ่านหน้าท้อง และอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีอาการประจำเดือนมามากผิดปกติ ปวดท้องจนทนไม่ไหว หรือประจำเดือนมา ๆ หาย ๆ หรือพบว่ามีเลือดออกผิดปกติที่ลักษณะต่างออกไปจากประจำเดือน หรือไม่แน่ใจว่าเป็นเลือดออกผิดปกติหรือไม่ แนะนำให้คุณสุภาพสตรีมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อประเมินทุกครั้ง สามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยได้ที่ แผนกสูตินรีเวช โรงพยาบาลลานนา ที่ให้บริการดูแลโรคสำหรับสุภาพสตรีอย่างครอบคลุม สอบถามเพิ่มเติม โทร.052-134777
พญ. รวีวรรณ คำโพธิ์
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินารีเวช