เข้าสู่ฤดูฝนถ้าหากไม่ดูแลสุขภาพให้ดีโรคภัยไข้เจ็บอาจจะมาเยือนเราโดยไม่รู้ตัว โรคตาแดง ก็เป็นหนึ่งในโรคที่มักระบาดหนักช่วงหน้าฝน และถือเป็นโรคที่น่ารำคาญใจเลยก็ว่าได้ โดยเราจะมาทำความรู้จักว่าอะไรคือสาเหตุของโรคนี้ และจะมีวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคตาแดงได้อย่างไร

สาเหตุของโรคตาแดงคืออะไร

        โรคตาแดง เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา จากการติดเชื้อไวรัส เป็นกลุ่มอาดิโนไวรัส (Adenovirus ) ส่วนใหญ่จะติดต่อโดยตรงจากการสัมผัสน้ำตาของผู้ป่วยที่ติดมากับนิ้วมือ และแพร่จากนิ้วมือมาติดต่อที่ตาโดยตรงแต่ไม่ติดต่อโดยการสบสายตา ทางอากาศ หรือการรับประทานอาหารร่วมกัน โดยจะเกิดอาการภายนอก 1-2 วัน ระยะการติดต่อไปยังผู้อื่นประมาณ 1-4 วัน

โรคนี้ติดต่อจากอะไรได้บ้าง

        1.การคลุกคลี ใกล้ชิด หรือ สัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วยโรคตาแดง

        2.สวมใส่เสื้อผ้า หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย

        3.ฝุ่นละออง หรือน้ำสกปรกเข้าตา

        4.แมลงหวี่ หรือแมลงวันตอมตา

        5.ไม่รักษาความสะอาดของร่างกาย โดยเฉพาะมือและใบหน้า

โรคนี้แสดงอาการอะไรบ้าง

        ผู้ที่ได้รับชื้อไวรัสจะมีอาการตาแดง เคืองตาตาขาวจะมีสีแดงเรื่อ ๆ น้ำตาไหลเจ็บตาและจะมีขี้ตาร่วมด้วย ต่อมน้ำเหลืองหน้าหูเจ็บและบวมโดยจะเป็นที่ตาใดข้างหน้งก่อนถ้าไม่ระวังให้ดีจะติดต่อมายังตาอีกข้างหนึ่งแต่ถ้าระวัดระวังไม่ให้น้ำตาข้างที่ติดเชื้อไวรัสมาถูกตาข้างที่ดี ก็จะไม่เป็นตาแดงได้ แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นอีกข้างได้อย่างรวดเร็วฤดูกาลจะพบผู้ติดเชื้อไวรัสตาแดงฤดูฝน ระยะเวลาอาการของโรคจะเป็นประมาณ 5-14 วัน ถ้าไม่มีโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นโรคแทรกซ้อนมีอาการเคืองตามาก ลืมตาไม่ค่อยได้จะมีอาการกระจกตาอักเสบแทรกซ้อน และจะดีขึ้นได้ประมาณ 3 สัปดาห์ หรือบางรายเป็น1-2 เดือน ทำให้ตาพร่า มัวเป็นเวลานาน

เมื่อเป็นโรคนี้มีวิธีรักษาและป้องกันได้อย่างไร

        เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัส จึงยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสนี้โดยตรงต้องรักษาตามลักษณะอาการของโรค คือ ถ้ามีขี้ตาให้หยอดยาปฏิชีวนะสาร มีไข้ เจ็บคอ ให้ใช้ยาแก้อับเสบร่วมกับยาลดไข้ และยาลดปวดซึ่งคนไข้จะต้องดูแลสุขภาพของตนเองโดยการพักผ่อนให้เพียงพอไม่จำเป็นต้องปิดตาไว้ตลอดยกเว้นมีกระจกตาอักเสบเคืองตามากจึงปิดตาเป็นนครั้งคราวได้ ไม่ควรให้เชื้อไวรัสแพร่กระจาย โดยการงดการใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกันทุกครั้งที่สัมผัสตา ควรล้างมือให้สะอาด ผู้ป่วยไม่ควรลงเล่นน้ำในสระ เพราะจะเป็นการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในน้ำได้

  อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีอาการ  ปวดตามาก จนถึงขั้นปวดรุนแรง สายตาพร่ามัว ตาไม่สู้แสงตาแดงจัด มีจุดขาวเล็กๆ ที่กระจกตานานนับเดือน อย่าปล่อยไว้นาน รีบมาปรึกษาจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการตรวจ และรักษาให้ทันการ

พญ.สุวิชา คมปรียารัตน์ 

จักษุแพทย์ โรงพยาบาลลานนา